ข้อกำหนดพื้นฐานของการจัดเก็บวัตถุอันตราย
โครงสร้างสถานที่เก็บรักษา
1. พื้นอาคาร
- 1.1 พื้นแข็งแรงรับน้ำหนักวัตถุอันตรายได้เหมาะสม
- 1.2 พื้นต้องทนต่อน้ำและทนต่อการกัดกร่อนวัตถุอันตรายได้
- 1.3 พื้นที่เก็บของเหลว-ก๊าซไวไฟ พื้นต้องนำไฟฟ้าได้ และป้องกันไฟฟ้าสถิต
- 1.4 พื้นต้องไม่ดูดซับของเหลว เรียบ ไม่ลื่น ไม่แตกร้าว ทำความสะอาดง่าย
2. หลังคา
- 2.1 หลังคากันฝนได้ดี และต้องสามารถระบายความร้อน-ควันขณะเพลิงไหม้
- 2.2 วัสดุมุงหลังคาทนไฟได้ 30 นาที
- 2.3 โครงสร้างหลักเช่น เสา คาน ต้องปกป้องด้วยวัสดุไม่ติดไฟ
- 2.4 หลังคาในคลังเก็บสารเคมีต้องไม่มีฝ้า
- 2.5 หากจำเป็นต้องมีฝ้า แผ่นฝ้าต้องไม่ติดไฟและมีอุปกรณ์ตรวจจับควันหรือความร้อน
3. ประตูและทางออกฉุกเฉิน
- 3.1 ขนาดประตูทางออกฉุกเฉินกว้างไม่น้อยกว่า 1.10 เมตร
- 3.2 ไม่มีการปิดล็อคประตูด้วยกุญแจ และไม่มีสิ่งของกีดขวาง
- 3.3 เป็นประตูบานผลักออกด้านนอกเท่านั้น และไม่เจอทางตัน
- 3.4 ประตูเข้า-ออกต้องมีอย่างน้อย 2 ประตู
- 3.5 อาคารขนาดใหญ่ ต้องมีประตูออกฉุกเฉิน ทุกระยะ 35 เมตร
- 3.6 มีแสงสว่างฉุกเฉินส่องบริเวณประตูทางออกฉุกเฉิน
- 3.7 ประตูกันไฟแบบเลื่อนปิดอัตโนมัติเมื่อเกิดเปลวไฟ ต้องไม่หลุดหรือล้มออกจากรางและ เชื่อมต่อกับสัญญาณเตือนภัย
- 3.8 ประตูกันไฟต้องทนไฟได้ไม่น้อยกว่ากำแพงทนไฟ
4. ผนังอาคาร
- 4.1 ผนังกันไฟกั้นตัดตอน
- 4.2 ผนังกันไฟ
- 4.3 ผนังคอนกรีต
5. กำแพงทนไฟ
- 5.1 กำแพงทนไฟสูงเหนือหลังคา 30-100 เซนติเมตร
- 5.2 กำแพงทนไฟด้านผนัง ยื่นออก 30-50 เซนติเมตร
- 5.3 กำแพงทนไฟ (F30 F60 F90 F120 F180)
- 5.4 ประตูกันไฟ
6. ระบบไฟฟ้าแสงสว่าง หรือแสงสว่างฉุกเฉิน
- 6.1 โคมไฟชนิด Metal halide / Mercury มีฝาครอบด้านหน้าป้องกันหลอดตกลงพื้น
- 6.2 โคมไฟแสงสว่างติดตั้งห่างจากสารเคมีอันตรายมากกว่า 50 เซนติเมตร
- 6.3 โคมไฟแสงฉุกเฉิน ต้องเป็นชนิดกันระเบิดในพื้นที่ที่มีสารไวไฟหรือระเบิดได้
7. ระบบไฟฟ้าและอุปกรณ์ไฟฟ้า
- 7.1 อุปกรณ์ไฟฟ้าชนิดป้องกันการระเบิด (Explosion Proof) เหมาะสมกับชนิดสารเคมี
- 7.2 อุปกรณ์ไฟฟ้ามีการต่อสายดิน
- 7.3 ระบบป้องกันการเกิดไฟฟ้าลัดวงจร
- 7.4 ถัง ภาชนะบรรจุสารไวไฟ มีการต่อสายดินป้องกันไฟฟ้าสถิต
8. ระบบป้องกันฟ้าผ่า
- 8.2 ติดตั้งระบบสายล่อฟ้า
- 8.2 ค่าความต้านทานดินไม่เกิน 5 โอห์ม
9. ระบบระบายอากาศ
- 9.1 การระบายอากาศแบบธรรมชาติ เช่น หลังคาซ้อน 2 ชั้นกลางห้อง (แบบกรงนก)
- 9.2 การระบายอากาศแบบทางกล เช่น พัดลมระบายอากาศ (ต้องได้รับการออกแบบจากผู้เชี่ยวชาญ)
10. เส้นทางจราจร
- 10.1 มีการจัดแบ่งเส้นทางเดินจากเส้นทางรถยกอย่างชัดเจน
11. ระบบป้องกันอัคคีภัย
- 11.1 สัญญาณเตือนภัย
- 1) มีระบบสัญญาณแจ้งเหตุเพลิงไหม้ แบบกดด้วยมือ
- 2) มีระบบสัญญาณแจ้งเหตุเพลิงไหม้ แบบอัตโนมัติ
- 3) มีระบบสัญญาณแจ้งเหตุสารเคมี/ก๊าซรั่วไหล และมีเสียงที่แตกต่างจากข้อ 1 และ 2
- 11.2 การติดตั้งระบบสัญญาณเตือนภัย
- 1) สวิตช์แบบกดอยู่ในตำแหน่งเหมาะสมทุกระยะ 30 เมตร และทดสอบเดือนละ 1 ครั้ง
- 2) อุปกรณ์ตรวจจับควันไฟ ต้องติดตั้งตำแหน่งสูงสุดของหลังคา
- 3) อุปกรณ์ตรวจจับความร้อน ติดตั้งระดับความสูงที่เหมาะสม
- 4) อุปกรณ์ตรวจจับก๊าซ ติดตั้งในตำแหน่งที่เหมาะสมกับชนิดของก๊าซ
- 5) อุปกรณ์ตรวจจับทุกชนิดต้องกันระเบิดได้ หากติดตั้งในพื้นที่มีไอระเหยสารไวไฟ
- 11.3 อุปกรณ์ดับเพลิง
- 1) ติดตั้งถังดับเพลิงประเภท A-B ด้วยจำนวนและความสามารถของเครื่องดับเพลิง โดยคำนวณตามพื้นที่ของสถานที่เก็บวัตถุอันตราย โดยต้องมีระยะเข้าถึงไม่เกิน 22.5 เมตร
- 2) ตรวจสอบความพร้อมใช้ของถังดับเพลิงทุก 6 เดือน
- 3) มีเครื่องหมายหรือสัญลักษณ์เห็นชัดเจน แสดงว่าเป็นถังชนิดใด ใช้ดับเพลิงประเภทใด
- 11.4 ระบบน้ำดับเพลิง
- 1) ระบบหัวกระจายน้ำดับเพลิง (water sprinkling) ครอบคลุมพื้นที่ที่มีการเก็บรักษาวัตถุอันตราย
- 2) ถ้ามีระบบหัวกระจายน้ำดับเพลิงในชั้นวางสินค้า (In rack sprinkling) อย่างน้อยต้องติดตั้งหัวกระจายน้ำทุก 2 ชั้น
- 3) ระบบหัวรับน้ำดับเพลิง (water hydrant) ทุกระยะ 50 เมตร อุปกรณ์ข้อต่อ สายส่งน้ำเป็นขนาดเดียวกันหรือเข้ากันได้กับอุปกรณ์ของหน่วยดับเพลิงท้องถิ่น
- 4) ตู้ดับเพลิงแบบสาย (fire hose reel) มีความยาวเพียงพอครอบคลุมพื้นที่
- 5) ระบบน้ำดับเพลิงสำรอง มีไม่น้อยกว่า 100 ลูกบาศก์เมตร/ชั่วโมง ในพื้นที่มีขนาดไม่เกิน 2,500 ตารางเมตร
- 6) ระบบน้ำดับเพลิงสำรอง มีไม่น้อยกว่า 200 ลูกบาศก์เมตร/ชั่วโมง ในพื้นที่ ที่มีขนาดเกิน 4,000 ตารางเมตร
- 7) เครื่องสูบน้ำดับเพลิง ชนิด Jocky pump
- 8) เครื่องสูบน้ำดับเพลิง ชนิด Emergency Electric pump
- 9) เครื่องสูบน้ำดับเพลิง ชนิด Diesel Engine pump
- 10) ทดสอบเดินเครื่องสูบน้ำดับเพลิงสม่ำเสมอ
- 12.1 อุปกรณ์อาบน้ำฉุกเฉิน (safety shower)
- 12.2 อุปกรณ์ล้างตาฉุกเฉิน (eye bath)
- 12.3 อุปกรณ์ปฐมพยาบาล
- 12.4 อุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล
- 12.5 เครื่องหมายความปลอดภัย เช่น ป้ายห้าม ป้ายเตือน ป้ายบังคับ ป้ายข้อมูล
- 12.6 อุปกรณ์การจัดการกรณีสารรั่วไหล
- 12.7 การกำจัดของเสีย
- 13.1 มีระบบกักเก็บน้ำผ่านการดับเพลิง ปริมาตรความจุตามตาราง
- 13.2 มีระบบกักเก็บสารเคมีกรณีรั่วไหลออกนอกพื้นที่เก็บรักษาไม่ให้ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
- 13.3 มีระบบรองรับสารเคมีอันตรายที่รั่วไหลภายในสถานที่เก็บรักษาไปรวมไว้ที่บ่อกักเก็บ
- 13.4 บ่อกักเก็บต้องเป็นบ่อซีเมนต์ภายนอกอาคาร หรือโดยทำทางลาดใต้พื้นอาคารเพื่อป้องกันของเหลวไม่ให้ไหลออกสู่ภายนอกอาคาร
- 14.1 บริเวณโดยรอบพื้นที่เก็บ ต้องไม่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอัคคีภัย และมีสภาพแวดล้อมที่อาจนำไปสู่การเกิดไฟไหม้
- 14.2 ห้ามเก็บรักษาในพื้นที่จัดให้เป็นที่จอดรถ หรือเส้นทางการจราจร
- 14.3 พื้นที่แข็งแรงเพียงพอกับการรับน้ำหนักสารเคมีหรือวัตถุอันตรายที่เก็บรักษา
- 14.4 วัสดุของพื้นต้องเหมาะสมหรือทนกับสภาพตามประเภทของสารเคมีที่เก็บรักษา
- 14.5 มีระบบรองรับสารเคมีและวัตถุอันตรายที่รั่วไหลในบริเวณสถานที่เก็บรักษาไปรวมไว้ที่บ่อกักเก็บ
- 14.6 มีการป้องกันการเสื่อมสภาพของสารเคมีหรือบรรจุภัณฑ์ที่เก็บรักษาจากสภาวะแวดล้อมที่ส่งผลกระทบ
- 14.7 การจัดวางสารเคมีหรือวัตถุอันตราย ต้องมีการป้องกันการเคลื่อนตัวของสารเคมีที่เก็บรักษา หรือจัดให้มีแผ่นรองสินค้าที่มั่นคงแข็งแรง
- 14.8 บริเวณเก็บรักษาต้องเว้นระยะห่างที่เหมาะสมสำหรับช่องทางที่ไปยังจุดติดตั้งอุปกรณ์ดับเพลิง
- 14.9 ประเภทสารที่ไม่อนุญาตให้เก็บรักษาภายนอกอาคาร
12. การจัดการด้านสุขศาสตร์และความปลอดภัย
13. การจัดการด้านสิ่งแวดล้อม
พื้นที่รวมของสถานที่เก็บรักษาทั้งหมด (ตารางเมตร) | ความจุของบ่อกักเก็บฉุกเฉิน (ลูกบาศก์เมตร) |
25 | 6 |
50 | 12 |
75 | 18 |
100 | 25 |
150 | 40 |
200 | 55 |
250 | 70 |
300 | 90 |
400 | 125 |
มากกว่าหรือเท่ากับ 500 | 150 |